วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ประดิษฐ์ระบบแจ้งภัยสัญญาณใหม่ ให้รถยนต์ ป้องกันตัวของตัวเอง


Hosting
พวกโจรขโมยรถจะไม่อาจขโมยไปได้อย่างสบายอีกต่อไปแล้ว เพราะได้มีการออกแบบระบบแจ้งภัยสัญญาณแบบใหม่ ซึ่งทำให้บรรดารถยนต์ต่างคอยช่วยกันดูพวกมันกันเอง เหมือนกับฝูงสัตว์ที่รู้จักช่วยกันป้องกันอันตรายจากศัตรูนักล่า

ระบบเตือนภัยสัญญาณรถยนต์แบบใหม่ ออกแบบโดยนายฮุย ซง นักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐฟรอสต์เบิร์ก ที่รัฐแมรีแลนด์ของอเมริกา จะทำให้รถที่จอดอยู่ด้วยกัน จะติดต่อถึงกันได้หมด โดยเครื่องส่งวิทยุขนาดเล็กที่ติดอยู่ตลอดเวลา และหากรถเคลื่อนที่ออกไปเพียงเล็กน้อย สัญญาณเตือนภัยจะทำงานขึ้นภายในไม่กี่วินาที

เจ้าของความคิดเผยกับวารสารวิทยาศาสตร์ “นิว ไซเอนติสต์” อันมีชื่อเสียงว่า “เครื่องรับสัญญาณที่ติดตั้งอยู่ในรถหลายตัว จะทำให้โจรขโมยรถ ไม่อาจ จะตัดสัญญาณภายในเวลาอันสั้นได้ระบบจะเริ่มทำงานเมื่อผู้ขับเปิดสวิตช์ เครื่อง ส่งวิทยุขนาดเล็กที่ติดอยู่ในรถไว้ เมื่อทิ้งรถไปด้วยรีโมต จากนั้นรถจะส่งสัญญาณไปถึงรถที่จอดอยู่ใกล้กันคันอื่น โดยมันจะเลือกคันที่อยู่ติดกันกว่าเพื่อนให้คอยเป็นเหมือนกับยาม โดยมันจะคอยส่งสัญญาณติดต่อกับรถยามเหล่านั้นไว้เสมอ จนกว่าคนขับจะกลับมา แล้วมันถึงจะส่งสัญญาณไปบอกลาก่อน”

แต่ในกรณีที่สัญญาณขาดหายไปโดยไม่ได้ร่ำลา รถคันที่ทำหน้าที่เป็นยาม จะแจ้งข่าวไปยังสถานีกลาง ซึ่งจะไปสับสวิตช์สัญญาณแจ้งไปยังยามที่สถานจอดรถ หรือเจ้าของรถ หรือตำรวจอีกต่อหนึ่งทันควัน

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สุดยอดเว็บไซต์เพื่อคนไทยที่มีหัวใจใฝ่รู้

ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ มีข่าวเด็กไทยคว้ารางวัลทางด้านวิชาการระดับโอลิมปิกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในระดับอุดมศึกษาที่สามารถสร้างผลงานกับเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ในระดับนานาชาติด้วยเช่นกัน ใครเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือแม้แต่ครู อาจารย์ คงปลื้มใจกันยกใหญ่

Hosting

ผลงานในระดับเยาวชนที่บ้านเราคว้ามาได้นี้ สามารถบ่งบอกให้ชนชาติอื่นๆ ได้รับรู้ว่า ประเทศไทยไม่ใช่ล้าหลังอีกต่อไปแล้ว หลายครั้งที่เด็กไทยสร้างปาฏิหาริย์ในการคว้ารางวัลที่มีคู่แข่งระดับโลกมากมาย นั่นเป็นการตอกย้ำว่ามาตรฐานการศึกษาบ้านเราเข้มแข็งและทัดเทียมกับชาติอื่นๆ ได้อย่างไม่น่าอายอีกต่อไป

สำหรับปัจจัยที่คอยเกื้อหนุนและส่งเสริมด้านความรู้แก่เยาวชนนั้น โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าอินเทอร์เน็ตมีบทบาทสำคัญมากทีเดียว เพราะเด็กไทยเริ่มหันมาเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยอาศัยเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นแหล่งความรู้ด้านวิชาการ แทบทุกสาขาวิชา คุณสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการผ่านเว็บไซต์ได้ นอกจากนี้การพัฒนาเว็บเสิร์ช เอนจิ้น ให้มีศักยภาพในการสืบค้นข้อมูลอยู่ตลอดนั้น ยิ่งช่วยทำให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสถานที่ ที่ให้ความรู้อย่างยิ่งยวด ผมเชื่อว่าต่อไปภายภาคหน้า หากมีการผลักดันให้เยาวชนแสวงหาความรู้จากเว็บไซต์หรือภายนอกห้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เราจะมีบุคคลากรที่เพียบพร้อมไปด้วยความรู้ ความสามารถแทบทุกแขนง ดังนั้น ในฉบับนี้คอลัมน์ Webline จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิความรู้ให้กับเด็กและเยาวชน โดยการพาไปรู้จักกับสุดยอดเว็บไซต์ทางด้านวิชาการ อ่านต่อ


วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ไวรัสคอมพิวเตอร์อาละวาดกลางอวกาศ

ลอนดอน 28 สค.- องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซา ยืนยันว่า เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา ที่นำขึ้นไปใช้ในสถานีอวกาศนานาชาติเมื่อเดือน ก.ค. เกิดติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า “Gammima.AG“ สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะอยู่กลางอวกาศ แต่ไวรัสคอมพิวเตอร์ก็ยังสามารถเล่นงานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อยู่ดี

ไวรัสคอมพิวเตอร์ “Gammima.AG“ ถูกตรวจพบเป็นครั้งแรกบนโลก เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว มักซ่อนตัวเองอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อรอจังหวะ ขโมยชื่อล็อกอินในเกมคอมพิวเตอร์ยอดนิยม ขณะที่นาซ่า ย้ำว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบไวรัสอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันกลางอวกาศ แต่ครั้งที่ผ่าน ๆ มา ไวรัสคอมพิวเตอร์จะก่อปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไปว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในสถานีอวกาศนานาชาติเกิดติดไวรัสได้อย่างไร อ่านต่อ


วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551

จับตารูปแบบโจมตีผู้ใช้เน็ต สแปมเมอร์ อีเวนต์มาแรง

ไซแมนเทครายงานสถานการณ์ของอีเมลขยะประจำเดือนสิงหาคม กระแสร้อนของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกับการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างแมคเคนกับโอบามา กลายเป็นเหยื่ออันโอชะของสแปมเมอร์ ทำให้ระดับของสแปมเมลสูงขึ้น คิดเป็น 78% ของการส่งเมลทั้งหมดในเดือนกรกฎาคมปี 2551 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวนสแปมเมลยังคงอยู่ที่ 66 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าอัตราการเพิ่มของสแปมเมล เทียบกันปีต่อปีนั้นสูงถึง 12% นั่นแสดงให้เห็นว่าบรรดาสแปมเมอร์ไม่เคยลดละความพยายามในการสร้างสแปมใหม่ๆ ขึ้นมาตลอดเวลา


นพชัย ตั้งไตรธรรม ที่ปรึกษาทางเทคนิค บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า จำนวนอีเมลขยะที่ตรวจวัดได้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ระดับของสแปมเมอร์ยังอยู่แค่ 66% ถ้าเทียบกันปีต่อปีจะพบว่า อัตราการเพิ่มของสแปมเมลระหว่างปีสูงถึง 12% โดยเหล่าบรรดาสแปมเมอร์จะเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีไปเรื่อยๆ สำหรับช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สแปมเมอร์ได้อาศัยเหตุการณ์สำคัญๆ มาเป็นเหยื่อล่อ อาทิ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดระหว่างแมคเคนและโอบามาซึ่งเป็นประเด็นที่สร้างกระแสความสนใจของผู้คนจำนวนมาก ทางบรรดาสแปมเมอร์ได้ฉวยโอกาสนี้ นำมาใช้เป็นกลลวงเพื่อล่อเหยื่อให้ตกหลุมพราง อ่านต่อ


วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ทิชชูนาโน ซับคราบน้ำมัน

ทิชชูนาโน (Nanotech paper towel) ด้วยคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถดูดซับคราบน้ำมันบนผิวน้ำได้ดีถึง 20 เท่าของน้ำหนักตัวของมันโดยไม่ซับน้ำ ในขณะที่ตัวขจัดคราบน้ำมันในอดีตที่ทำมาจากโพลีเมอร์และไฟเบอร์กลาสนั้นดูดซึมทั้งน้ำและน้ำมัน

อีกผลงานของนักวิจัยจากสถาบัน MIT (Massachusetts Institute of Technology.) นำทีมโดย Francesco Stellacci ที่เผยแพร่ในวารสาร Nature ฉบับวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา (Nature Nanotechnology (DOI: 10.1038/nnano.2008.136)) เรื่องกระดาษทิชชูนาโน ที่ให้สัมผัสและความรู้สึกเช่นเดียวกับกระดาษ มีคุณสมบัติไม่ซับน้ำ แต่กลับซับน้ำมันและไขมันมลพิษจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ (organic pollutants) ได้

ทิชชูนาโน ที่นักวิจัยได้ผลิตขึ้นมานั้นมาจากการถักทอตาข่ายนาโน ที่ผลิตมาจากแมงกานีส ออกไซด์ (Manganese oxide) ที่มีรูปร่างคล้ายเส้นสปาเก็ตตี้ที่มีท่อเล็กๆอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มันมีคุณสมบัติดูดซึมของเหลว (capillarity) ได้เป็นอย่างดี แล้วจากนั้นเส้นใยนาโนจะถูกเคลือบด้วยซิลิกอนที่เปลี่ยนให้มันเป็นฉนวนกันน้ำ และทำให้มันไม่ดูดน้ำ (แต่ดูดน้ำมัน) จากนั้น นำไปเข้ากระบวนการผลิตเป็นทิชชูนาโน ด้วยกระบวนการเช่นเดียวกับกระบวนการผลิตกระดาษ จนได้เป็นกระดาษทิชชูนาโนออกมา
อ่านต่อ


วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

คอมมูนิตี้ มาร์เก็ตติ้ง การตลาดใหม่โลกออนไลน์

"การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทำให้การตลาดสินค้าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดการตลาดแบบใหม่เป็น คอมมูนิตี้ มาร์เก็ตติ้ง (Community Marketting) สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้ซื้อ ที่หันมาใช้การค้นหาจากเวบไซต์ ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเวบบล็อก(Weblog) เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนการถามผู้รู้ที่เป็นคนใกล้ชิด และบอกต่อๆ กันไป (Word of Mouth)"

นี่เป็นส่วนหนึ่งของการสนทนากับ "นายดิเรก บราวน์" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย)

บราวน์ พูดถึง คอมมูนิตี้ มาร์เก็ตติ้ง การตลาดสมัยใหม่ยุคนี้ว่า สำหรับไมโครซอฟท์คงยังไม่สามารถสร้างชุมชนการตลาดในลักษณะดังกล่าวได้เองโดย ตรง เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เป็นการแบ่งปันความสนใจในเรื่องเดียวกัน ทำให้เกิดความสัมพันธ์

แต่สิ่งที่บริษัทต้องทำ คือ การให้แหล่งข้อมูลที่เพียงพอเพื่อที่ให้ชุมชนเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลได้มากที่สุด โดยเฉพาะคอมมูนิตี้อย่าง Most Value Professional ซึ่งเป็นแฟนผู้คลั่งไคล้ไมโครซอฟท์
อ่านต่อ

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

IT News

กิมจิเชื่อ"เว็บไซต์ส่งกลิ่น"คลอดปี 2015
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชาวเกาหลีใต้ระบุ อีกไม่เกิน 10 ปีนักท่องเน็ตจะสามารถรับส่งกลิ่นผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ รวมถึงการเกิดขึ้นของโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานติดต่อกัน 2 เดือนได้ โดยไม่ต้องชาร์ต และหุ่นยนต์คุณหมอศัลยกรรมขนาดจิ๋วที่จะสามารถเดินทางในเส้นเลือดภายในร่างกายมนุษย์
อ่านต่อ

การทำตลาดผ่าน Search Engine Marketing
เมื่อเรารู้ว่า Search Engine ทำงานอย่างไร? และรู้จักวิธีการค้นหาคำต่าง ๆ ด้วยเว็บไซต์ค้นหาแล้ว เราต้องหาวิธีที่จะเข้าไปเพิ่มชื่อ (Submission) เว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่าพันล้านคนรู้จัก ด้วยคำที่เราต้องการให้คนค้นหาพบ (Key Word) ซึ่ง เทคนิคและขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำให้เว็บไซต์ค้นหา รู้จักเรามีอยู่หลายวิธี
อ่านต่อ

10 เทคนิคการสร้าง Link Popularity ให้กับบล็อก
การเพิ่มจำนวน Link Popularity เป็นอีกวิธีหนึ่งในกระบวนการทำ SEO ให้กับบล็อกของคุณ นอกเหนือจากการเพิ่ม Link Popularity แล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาส ที่คนจะเข้ามาอ่านบล็อกของคุณมากขึ้นด้วย เพราะเป็นการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงบล็อก ลองดู 10 เทคนิคการสร้าง Link Popularity ให้กับบล็อกของคุณกันดูดีกว่าครับ รับรองว่าสิ่งเหล่านี้ สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ยากเลย
อ่านต่อ

คุณรู้จักคำว่า "Blog" ดีแค่ไหน
ถ้าพูดถึง Blog ในปัจจุบันคงไม่มีวัยรุ่นคนไหนไม่รู้จัก แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ความหมายและประโยชน์ที่แท้จริงของ Blog Blog ไม่ได้มีไว้ให้ระบายความรู้สึกเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกมากสำหรับองค์กรและตัวบุคคล หากรู้จักใช้ Blog ให้เป็นประโยชน์
อ่านต่อ


วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551

E-Marketing คืออะไร? ประกอบด้วยอะไร และทำอย่างไร?

การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจการทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นกิจกรรมที่เป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง และกิจกรรมที่นักการตลาดสามารถติดต่อกับผู้บริโภคได้ทั่วโลกและตลอดเวลา อ่านต่อ

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2551

IT Knowledge

Computer

คอมพิวเตอร์ช่วยสุนัขสื่อสารได้
นักวิทยาศาสตร์ชาวฮังกาเรียนได้ทำงานกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ช่วยวิเคราะห์เสียงเห่าของสุนัขที่สามารถช่วยให้คนจำอารมณ์ของสุนัขขั้นพื้นฐานได้ดีขึ้น
อ่านต่อ

คอมพิวเตอร์ 75 ดอลลาร์
นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นคนออกแบบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสำหรับเด็กไม่มีเงินนั้นกำลังจะจัดตั้งบริษัทเพื่อที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีราคาเพียง 75 ดอลลาร์
อ่านต่อ

ผู้ใช้คอมพ์เอเชียกลุ่มเสี่ยงติดไวรัสมากที่สุดในโลก
เทรนด์ไมโคร ระบุผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในเอเชียเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดไวรัสเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก เผยไวรัสคอมพิวเตอร์เปลี่ยนรูปแบบใช้วิธีแพร่ระบาดเป็นโซน
อ่านต่อ

Internet

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เมื่อโลกออนไลน์กลายเป็นชีวิตประจำวัน ก็ย่อมทำให้ข่าวสารทันสมัยฉับไวขึ้นทันตาเห็น ใครอยากรู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวอะไรก็ไม่ต้องรอเด็กส่งหนังสือพิมพ์อีกต่อไปแล้ว เพียงแค่เปิดคอมพ์เข้าเว็บแล้วก็เลือกคลิ้กตามใจฝัน
อ่านต่อ

Weblog นิวเทรนด์ของสังคมยุคใหม่
"บล็อก" ไม่เพียงแต่จะช่วยเผยแพร่ผลงาน และแสดงความคิดเห็นของคนในหลายๆ กลุ่มอย่างตรงไปตรงมา แต่ยังสร้างสังคมขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกด้วย เมื่อเทียบกับการโพสต์ในเว็บบอร์ดแล้ว บล็อกถือว่ามีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วกว่ามาก
อ่านต่อ

4 อันดับเว็บที่คุณต้องรู้
นอกเหนือจากปัจจัยสี่แล้ว ความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์ยุคนี้ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ก็คงจะเป็นระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จำพวก ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และภาษี ครั้งนี้เราก็จะแวะไปท่องเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้กัน
อ่านต่อ


E-Commerce

E-Commerce มะกันทะลุแสนล้านเหรียญ
การสำรวจธุรกิจออนไลน์ของสหรัฐฯ พบว่าเม็ดเงินที่ชาวอเมริกันใช้จับจ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์นั้น มีมูลค่าเกิน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นหลักไมล์ใหม่ที่เป็นสัญญาณบอกว่าอุตสาหกรรมนี้น่าจะเติบโตต่อเนื่องไ ปอีกหลายปีข้างหน้า

อ่านต่อ

ทำไมจะต้องมีกฎหมายสำหรับ E-Commerce
ถ้าไม่มีกฎหมาย e-commerce แล้ว เราจะค้าขายกันบนสื่ออิเลกทรอนิกส์ หรือค้าขายกันบนอินเทอร์เนตไม่ได้หรอ ความเป็นจริงแล้วถึงไม่มีกฎหมาย e-commerce เราก็ค้าขายกันได้ ถึงแม้บางส่วนจะไม่ครบวงจร
อ่านต่อ

E-Commerce ช่องทางการตลาดใหม่ ดีหรือไม่ อย่างไร
เมื่อ Internet มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวดเร็วมากจนน่าทึ่ง Internet จึงกลายเป็นช่องทางค้าขายที่น่าสนใจ แต่ช่องทางนี้จะเป็นช่องทางการตลาดที่ดีหรือไม่นั้น มาหาคำตอบกัน
อ่านต่อ

E-Marketing

ผลสำรวจโฆษณา อีก 5 ปีพลิกโฉมสู่โลกออนไลน์
รายงาน "The end of advertising as we know it" ซึ่งจัดทำโดยบริษัท ไอบีเอ็ม ระบุว่า อนาคตของอุตสาหกรรมโฆษณา 5 ปีจากนี้ จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
อ่านต่อ

I-Mobile

ประโยขน์ของมือถือ....ที่หลายคนไม่รู้มีเหตุด่วนเหตุร้ายให้ กด 112 ได้โดยไม่ต้องปลดล็อคปุ่ม หรือ กรณีแบตใกล้จะหมด กด* 3370# สำหรับมือถือ Nokia อ่านต่อ

Push Mail บริการรับ-ส่งอีเมลผ่านมือถือ
หลายๆ คนคงคุ้นหูคำว่าสมาร์ทโฟนและพีดีเอโฟน ซึ่งมือถือทั้งสองประเภทต่างก็เป็น "บิสซิเนสโฟน" ด้วยกันทั้งคู่ แต่มีความแตกต่างกันที่ลักษณะการใช้งาน
อ่านต่อ

50 เปอร์เซ็นต์ของคนทั่วโลกใช้มือถือ
ผู้ใช้มือถือทั่วโลกมีทั้งสิ้น 3.3 พันล้านเทียบเท่าได้กับครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรโลก ตั้งแต่ปี 1981 ที่บริษัท Nordic Mobile Telephony ได้เปิดทำการในซาอุดิอาระเบีย สวีเดน และนอร์เวย์ มือถือกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนสำคัญของคน และมียอดขายใหญ่ที่สุดในโลก
อ่านต่อ

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Viral Web Marketing คืออะไร

เบื้องหลังความสำเร็จของ HotMail, ICQ หรือแม้แต่สินค้าชั้นนำต่างๆ

ส่วนหนึ่งก็มาจากการทำ Viral Marketing ซึ่งการทำการตลาดในแบบนี้ได้สร้างการเติบโตทั้งในเรื่องแบรนด์สินค้า และยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก เพียงแต่ต้องมีไอเดียเจ๋งๆ เท่านั้นเป็นพอ

Viral Marketing หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการทำตลาดแบบปากต่อปาก (Word-of-Mouth Marketing) ถือว่าเป็นการทำตลาดที่เจ๋งสุดๆ ในยุคนี้ ลองคิดดู...แทนที่คุณจะต้องจ่ายเงินมหาศาลไปกับการซื้อโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์ โฆษณาทางทีวี หรือแม้แต่การทำโฆษณาแบนเนอร์ (Banner Ads) บนเว็บไซต์ แต่ด้วยศักยภาพของ Viral Marketing คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสักแดงเดียวเพื่อลงโฆษณาบนสื่อเหล่านั้น แต่แค่ปล่อยให้บรรดาแฟนคลับที่ชื่นชมสินค้า หรือติดตามความเคลื่อนไหวของคุณอยู่แล้วทำงานให้กับคุณแทน

การทำตลาดแบบ Viral Marketing จะทำให้แคมเปญการตลาดของคุณมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีด้วยตัวของมันเอง แล้วหลังจากนั้นก็จะเริ่มลุกลามไปเรื่อยๆ เหมือนกับไวรัส ด้วยการที่คุณส่งแคมเปญการตลาดที่สุดแสนจะฮา ขำ กลิ้ง หรือไม่ก็น่าสนใจสุดๆ ต่อไปให้กับเพื่อนๆ ในลิสต์รายชื่ออีเมลของคุณเพื่อให้ได้ร่วมดื่มด่ำกับสารพัดอารมณ์ที่คุณได้รับต่อๆ กันไป และเมื่อเกิดการส่งต่อๆ กันไปมากขึ้นก็จะเริ่มมีคนเรียกร้องต้องการรับชมแคมเปญโฆษณานั้นที่คุณสร้างขึ้นมา เพื่อจะได้รู้ว่ามันเจ๋งแค่ไหน เป็นอย่างที่เสียงลือ เสียงเล่าอ้างที่ใครๆ กล่าวขวัญกันถึงหรือเปล่า ซึ่งเมื่อพวกเขาได้รับชม ได้สัมผัสแล้ว ก็จะส่งต่อๆ ไปยังคนอื่นๆ อีก ทำให้แคมเปญการตลาดที่คุณสร้างขึ้นมานั้นถูกกระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว

เห็นไหมล่ะว่า Viral Marketing มีพลังมากแค่ไหน พลังของมันเรียกได้ว่าไร้ขอบเขตเกินพิกัด ซึ่งถ้าคุณใช้การทำโฆษณาด้วยช่องทางปกติอย่างที่เคยๆ ทำมาก็อาจจะได้รับผลตอบรับ หรือมีคนคลิกเข้ามาดูโฆษณานั้นแค่ 500-1,000 ครั้งเท่านั้น ซึ่งผลตอบรับระดับนี้ก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว แต่ถ้าทำการตลาดด้วยวิธีใหม่อย่าง Viral Marketing คุณจะพบว่าโฆษณาสุดเจ๋งที่คุณคิดขึ้นมาจะมีการส่งต่อ และมีผู้เปิดดูโฆษณานั้นมากกว่านี้หลายเท่าตัว ในเวลาอันรวดเร็วซะด้วย

แต่จะทำอย่างไร?

7 เคล็ดลับ Viral Web Marketing

นี่เป็นเคล็ดลับที่ใช้กันส่วนใหญ่ในการทำ Viral Marketing


1. ทำให้คนดูรู้สึกอะไรบางอย่าง
เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดก็คือ การสร้างให้โฆษณาชิ้นนั้นมีการถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน รุนแรง การนำเสนอจะต้องให้ผู้ชมสามารถแสดงความคิดเห็นออกมาให้ได้เป็นคำพูด สามารถตัดสินสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาได้ว่าต้องการสื่ออารมณ์แบบไหนออกมา

โฆษณาของคุณอาจจะทำให้คนรู้สึกรักหรือเกลียด มีความสุข หรือกำลังโกรธอย่างไร้เหตุผล ไร้สาระ งี่เง่า หรือว่าดูฉลาดหลักแหลมอัจฉริยะเหลือหลาย น่าสงสาร น่าเวทนา หรือให้ความรู้สึกน่าเกลียด เห็นแก่ตัว แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณต้องการให้คนดูได้รู้สึกไปกับโฆษณาของคุณก็คือความรู้สึกตื่นเต้นที่ถูกสูบฉีดขึ้นมาในกระแสเลือด เมื่อได้รับชมโฆษณา

อย่าลืมว่าสิ่งที่คุณทำขึ้นมา โฆษณาที่พยายามคิดค้นขึ้นมาไม่ได้ทำขึ้นเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ แต่จงพยายามทำให้เป็นกลางที่สุด สามารถเข้าถึงได้หลายกลุ่มเป้าหมาย หรือทำให้มีคนที่ไม่เห็นด้วย ไม่ชอบกับสิ่งที่คุณนำเสนอน้อยที่สุด เพราะการทำการตลาดแบบ Viral Marketing นั้น เป็นการทำการตลาดที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ของผู้ชม 100%



2. ทำบางอย่างที่เหนือความคาดหมาย
ถ้าคุณต้องการให้คนสนใจแคมเปญการตลาดของคุณ ก็จะต้องทำอะไรบางสิ่งที่ให้ดูแตกต่าง บางสิ่งที่เหนือกว่าความคาดหมาย ลืมไปได้เลยว่าคุณกำลังจะโปรโมตสินค้าให้ดูยอดเยี่ยมแค่ไหน เพราะทุกคนคิดอย่างนี้อยู่แล้ว และจงลืมไปด้วยว่าคุณจะทำให้มันดูเจ๋งสุดๆ ไปได้เลย เพราะว่าทุกๆ คนก็คิดทำสิ่งเหล่านี้อยู่เหมือนกัน แต่คุณควรจะคิดในสิ่งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ไม่ใช่สิ่งที่ธรรมดาๆ ที่พบเห็นกันทั่วไป ไม่ใช่แนวทางเดิมๆ ที่ใครๆ ก็คิดกัน ลองกลับมุมมองแล้วคิดให้แตกต่างไปจากสิ่งเดิมๆ ที่เคยเห็น ที่เคยเป็น

ถึงแม้ว่าผู้ชายจะไม่สามารถคลอดลูกได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย แต่ในขณะเดียวกันไอเดียพวกนี้ก็ทรงประสิทธิภาพมากๆ เมื่อนำมาใช้กับการทำโฆษณาแบบ Viral Advertisements และเหนือสิ่งอื่นใด ไม่เคยมีใครหลับหูหลับตาเลียนแบบคนอื่นอย่างไม่ลืมหูลืมตากันหรอก เพราะมันดูไม่มีกึ๋นเอาซะเลย



3. อย่าพยายามทำให้ดูเป็นการโฆษณา
ความผิดพลาดอย่างมหันต์อย่างที่ไม่น่าให้อภัยในการทำแคมเปญโฆษณาแบบ Viral Marketing ก็คือ คุณคิดว่าจะทำให้มันเป็นแค่โฆษณาที่มีคนแชร์กันดูและส่งต่อๆ กันไป ขอบอกว่าคุณคิดผิดอย่างถนัด เพราะมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น แม้ว่าการทำโฆษณาในแบบดั้งเดิมจะเป็นแค่การโปรโมตสินค้าอะไรสักอย่างที่คุณต้องการจะโฆษณา โชว์ให้เห็นว่ามันดีอย่างไร แล้วก็นำสินค้าตัวนั้นไปวางหน้าร้านหรือไม่ก็กลางเวที ดูๆ ไปแล้วก็แสนจะเชย เป็นรูปแบบเดิมๆ ที่ใช้กันมานานจนคร่ำครึ ซึ่งส่วนใหญ่โฆษณาแบบดั้งเดิมพวกนี้ก็จะใช้ซูเปอร์สตาร์ ดาราหนัง นางแบบมาเป็นคนแสดงโฆษณาทั้งนั้น แต่พระเจ้าช่วย คุณเดาอะไรได้อย่างหนึ่งไหม? ไม่มีใครสนใจสินค้าของคุณหรอก ใครๆ เขาก็จ้องดารากันทั้งนั้นแหละ

Viral Marketing คือการนำเสนอเรื่องราวที่ดีๆ ดูอย่าง BMW ตอนที่ทำหนังโฆษณาของ BMW ออกมา หัวใจหลักของหนังโฆษณาไม่ได้เกี่ยวกับรถเลย แต่เป็นเรื่องราว ซึ่งก็เป็นโฆษณาที่ดูเยี่ยมยอดทีเดียว หรืออย่าง Sony ที่ทำโฆษณาทีวี Bravia ออกมา แม้จะเป็นสินค้าที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน แต่ก็ไม่มีใครที่จะจำมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นเทรนด์ใหม่ของการทำโฆษณาไม่จำเป็นต้องใช้ตัวสินค้าเป็นเครื่องมือในการนำเสนอเสมอไป

เพราะฉะนั้นจงลืมอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นตัวคุณ สินค้าของคุณ หรือแม้แต่บริษัทของคุณ แต่จงมุ่งเป้าให้ความสนใจไปที่การสร้างสรรค์เรื่องราวที่ดีและน่าสนใจ แน่นอนว่าคุณสามารถนำสินค้าเข้าไปผสมผสานร่วมกันได้ แต่ต้องไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวใจหลักของการคิดเรื่องราวเพื่อทำโฆษณา



4. มีเรื่องราวที่ต่อเนื่อง
ถ้าคนที่เพิ่งจะเคยเห็นแคมเปญโฆษณาของคุณ พวกเขาก็จะคิดว่ามันน่าสนใจดี เหนือความคาดหมาย และแน่นอนว่าอารมณ์ของคนดูจะฉีดพุ่งขึ้นไปอีกระดับ เพราะมันมีการลุ้นให้ติดตามตอนต่อไป ซึ่งคุณเองก็ควรจะเอาใจใส่ที่จะทำโฆษณาตอนต่อไปออกมาเรื่อยๆ เพื่อให้มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง
แล้วตอนนี้คุณทำอะไรอยู่?

ถ้าคุณชอบที่จะทำเหมือนกับบริษัททั่วๆ ไป คุณก็คงจะทำอะไรที่ดูธรรมดา ไม่มีอะไรที่น่าสนใจ น่าดึงดูด ซึ่งนั่นเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงทีเดียว เมื่อคุณทำให้คนดูสนใจ อยากติดตามหนังที่คุณสร้างขึ้นมาแล้วก็ต้องเอาใจใส่ดูแลทำออกมาให้ดี ไม่ใช่แค่ทำๆ ออกมาให้มันจบๆ ไป แต่หนังที่สร้างมันต้องมีเรื่องราวที่ดี น่าติดตามด้วย ซึ่งทางหนึ่งที่คุณจะทำได้ก็คือ การทำให้มากกว่าหนังปกติ มีภาคต่อเนื่อง ซึ่งก็ทำได้หลายแบบ เช่น

- ทำให้เป็นหนังที่ดูพิเศษกว่าปกติ มีคอนเซ็ปต์ที่คิดขึ้นมาเป็นรายแรก เหมือนกับหนังฟิล์มของ BMW และ Nissan ที่ทำขึ้นมา
- นำเสนอในแนวของเบื้องหลังการถ่ายทำ
- ให้คนดูจับผิด หรือหาจุดที่คนทำหนังปล่อยไก่ออกมา ให้ดูคล้ายๆ กับเป็นภาพหลุด
- สร้าง Blog เกี่ยวกับขั้นตอนการถ่ายทำ เหมือนกับที่ Nissan ทำมาแล้ว
- เนื้อหามีความพิเศษ ดึงดูดใจ
- หรือจะนำเสนอทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นก็ไม่ว่ากัน

ที่สำคัญ อย่าสร้างหนังโฆษณาที่ปล่อยให้คนดูยืนดูเฉยๆ โดยที่ไม่ได้อะไรกลับไป แล้วก็อย่าลืมนับถอยหลังวันที่จะเผยแพร่โฆษณาชิ้นนั้น เช่น ภาพยนตร์ภาคต่อไปจะฉายในทุกๆ 2 สัปดาห์ เป็นต้น

7 เคล็ดลับ Viral Web Marketing (ต่อ)

5. เปิดให้แชร์ ดาวน์โหลด และเอาไปโชว์บนเว็บไซต์อื่นๆ ได้
การแชร์ คือหัวใจของการทำ Viral Marketing เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพยายามรังสรรค์ขึ้นมานั้นจะต้องทำให้แคมเปญโฆษณาชิ้นนั้นส่งต่อๆ กันไป เพื่อแบ่งปันกับผู้อื่นง่ายที่สุด นั่นหมายความว่า คุณต้องอนุญาตให้ผู้ชมทำสิ่งเหล่านี้ได้ นั่นคือ

- ดาวน์โหลดคอนเท็นต์ในรูปแบบไฟล์ทั่วๆ ไปที่ใช้กัน เช่น ไฟล์รูปภาพในรูปแบบของ JPG, ไฟล์วิดีโอในรูปแบบของ MPG เป็นต้น
- ต้องทำให้คนดูสามารถนำคอนเท็นต์ที่คุณสร้างขึ้นมาไปโพสต์บนเว็บไซต์ของเขาได้ ซึ่งขนาดของไฟล์ก็มีความสำคัญ เพราะถ้าใหญ่เกินไปก็ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำไม่สามารถเปิดดูผ่านออนไลน์ได้
- ยอมให้ส่งต่อไปยังเพื่อนหรือผู้อื่น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะส่งเป็นลิงก์ไปให้ หรือจะให้ส่งคอนเท็นต์นั้นไปยังผู้อื่นโดยตรงก็ได้
- นำไปโพสต์ไว้หลายๆ เว็บไซต์ เช่น Digg.com, YouTube.com เป็นต้น
- อนุญาตให้ผู้ชม Add เว็บไซต์นั้นเข้าไปใน Bookmark ของเขาเอง
Note : คุณสามารถทำให้ง่ายขึ้นได้ ด้วยการสร้างไอคอน “share me”, “dig this” หรืออะไรก็แล้วแต่ให้ผู้ชมรู้ว่าเป็นการส่งไปต่อไปยังคนอื่นขึ้นมา



6. สร้างความสัมพันธ์ด้วยความคิดเห็น
ส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของการทำ Viral Marketing คือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชม จงจำไว้ว่าเมื่อคุณได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ชม พวกเขาก็จะเริ่มตื่นเต้น และแน่นอนว่าต้องมีการพูดคุยกัน วิจารณ์สิ่งที่ได้ชมในเรื่องเดียวกัน ซึ่งความคิดเห็นต่างๆ เป็นสิ่งที่มีพลังอย่างมาก ยิ่งมีคนพูดถึงมากเท่าไร ย่อมหมายถึงมีคนให้ความสนใจมากเท่านั้น

จงทำให้แคมเปญโฆษณาแบบ Viral Marketing ของคุณเข้าไปอยู่ในใจของคนดู ด้วยการสร้างอารมณ์ของเนื้อเรื่องให้มีความชัดเจน มีความน่าจดจำ ตราตรึงติดอยู่ในสมอง ในจิตใจของคนดู นั่นหมายความว่าคุณต้องทำให้คนดูชอบโฆษณานั้นจริงๆ จังๆ หรือไม่ก็ทำให้คนรู้สึกแย่มากๆ จะได้พูดถึงกันไปปากต่อปาก กระจายข่าวกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณจะต้องทำใจยอมรับความคิดเห็นทั้งดีและไม่ดีที่จะเกิดขึ้น และจะต้องต้อนรับทุกความคิดเห็นที่เข้ามา แต่ในเวลาเดียวกัน คุณก็ต้องศึกษา คาดการณ์ล่วงหน้า และตั้งรับกับสงครามการต่อต้านจากผู้ชม รวมทั้งคู่แข่งของคุณด้วย

จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นความผิดบาปอะไรนักหนาถ้าคุณจะลบความคิดเห็นของคนที่ตั้งใจเข้ามาโจมตีคุณทิ้งไปบ้าง แต่ในขณะเดียวกันคุณจะผิดและบาปอย่างมากถ้าคุณลบความคิดเห็นของคนที่แค่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทำ หรือมีความคิดในทางด้านลบกับโฆษณาของคุณที่สร้างขึ้นมา

การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นนั้นหมายถึงการส่งความคิดเห็นกลับมา ดังนั้นอย่าใส่ความคิดเห็นลงไปถ้าคุณไม่ต้องการที่จะให้ใครมาสร้างสัมพันธ์กับตัวคุณ



7. อย่าจำกัดการเข้าชมเด็ดขาด
Viral Marketing เป็นการสร้างแคมเปญการตลาดที่ทำให้มันมีชีวิตด้วยตัวเอง เหมือนกับการทำงานของไวรัส ซึ่งจริงๆ แล้วคำว่า Viral เป็นคำ Adjective มีความหมายว่า เกี่ยวกับ หรือเกิดจากเชื้อไวรัส (Virus) ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่รูปแบบการทำงานในแบบ Viral Marketing จะเหมือนกับไวรัสที่ต้องการอิสระ เพื่อส่งต่อไปยังผู้อื่นได้ง่ายๆ เพียงแต่ไม่มีอันตราย หรือน่ารังเกียจเหมือนกับไวรัสเท่านั้นเอง


ดังนั้นเพื่อให้การเข้าชมเป็นไปอย่างไร้ขอบเขต ไม่ถูกจำกัด จึงต้อง

- อย่าให้ผู้ชมลงทะเบียน
- ไม่ต้องสมัครสมาชิก
- ไม่ต้องดาวน์โหลดด้วยซอฟต์แวร์พิเศษ
- ไม่มีการล็อกรหัส
- ไม่ต้องทำอะไรก็ตามเพื่อให้ได้ลิงก์โฆษณาที่ถูกต้องมา

การทำโฆษณาแบบ Viral Marketing นั้น ไม่ต้องการให้งานโฆษณาดูลึกลับ หรือถูกเก็บเป็นความลับ แต่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นได้รับชมกันอย่างถ้วนหน้า

ที่มา : ecommerce-magazine