ส่วนหนึ่งก็มาจากการทำ Viral Marketing ซึ่งการทำการตลาดในแบบนี้ได้สร้างการเติบโตทั้งในเรื่องแบรนด์สินค้า และยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก เพียงแต่ต้องมีไอเดียเจ๋งๆ เท่านั้นเป็นพอ
Viral Marketing หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการทำตลาดแบบปากต่อปาก (Word-of-Mouth Marketing) ถือว่าเป็นการทำตลาดที่เจ๋งสุดๆ ในยุคนี้ ลองคิดดู...แทนที่คุณจะต้องจ่ายเงินมหาศาลไปกับการซื้อโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์ โฆษณาทางทีวี หรือแม้แต่การทำโฆษณาแบนเนอร์ (Banner Ads) บนเว็บไซต์ แต่ด้วยศักยภาพของ Viral Marketing คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสักแดงเดียวเพื่อลงโฆษณาบนสื่อเหล่านั้น แต่แค่ปล่อยให้บรรดาแฟนคลับที่ชื่นชมสินค้า หรือติดตามความเคลื่อนไหวของคุณอยู่แล้วทำงานให้กับคุณแทน
การทำตลาดแบบ Viral Marketing จะทำให้แคมเปญการตลาดของคุณมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีด้วยตัวของมันเอง แล้วหลังจากนั้นก็จะเริ่มลุกลามไปเรื่อยๆ เหมือนกับไวรัส ด้วยการที่คุณส่งแคมเปญการตลาดที่สุดแสนจะฮา ขำ กลิ้ง หรือไม่ก็น่าสนใจสุดๆ ต่อไปให้กับเพื่อนๆ ในลิสต์รายชื่ออีเมลของคุณเพื่อให้ได้ร่วมดื่มด่ำกับสารพัดอารมณ์ที่คุณได้รับต่อๆ กันไป และเมื่อเกิดการส่งต่อๆ กันไปมากขึ้นก็จะเริ่มมีคนเรียกร้องต้องการรับชมแคมเปญโฆษณานั้นที่คุณสร้างขึ้นมา เพื่อจะได้รู้ว่ามันเจ๋งแค่ไหน เป็นอย่างที่เสียงลือ เสียงเล่าอ้างที่ใครๆ กล่าวขวัญกันถึงหรือเปล่า ซึ่งเมื่อพวกเขาได้รับชม ได้สัมผัสแล้ว ก็จะส่งต่อๆ ไปยังคนอื่นๆ อีก ทำให้แคมเปญการตลาดที่คุณสร้างขึ้นมานั้นถูกกระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
เห็นไหมล่ะว่า Viral Marketing มีพลังมากแค่ไหน พลังของมันเรียกได้ว่าไร้ขอบเขตเกินพิกัด ซึ่งถ้าคุณใช้การทำโฆษณาด้วยช่องทางปกติอย่างที่เคยๆ ทำมาก็อาจจะได้รับผลตอบรับ หรือมีคนคลิกเข้ามาดูโฆษณานั้นแค่ 500-1,000 ครั้งเท่านั้น ซึ่งผลตอบรับระดับนี้ก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว แต่ถ้าทำการตลาดด้วยวิธีใหม่อย่าง Viral Marketing คุณจะพบว่าโฆษณาสุดเจ๋งที่คุณคิดขึ้นมาจะมีการส่งต่อ และมีผู้เปิดดูโฆษณานั้นมากกว่านี้หลายเท่าตัว ในเวลาอันรวดเร็วซะด้วย
แต่จะทำอย่างไร?